วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเซลล์

ใบความรู้
เรื่อง เซลล์พืชและเซลล์สัตว์
1. เซลล์พืช
เซลล์พืชมีอยู่ทุกส่วนในต้นพืช ลักษณะรูปร่างของเซลล์พืช ในแต่ละส่วนของพืชอาจแตกต่างกันออกไป แต่อย่างไรก็ตามเซลล์พืชทั่ว ๆ ไป จะประกอบด้วยส่วนประกอบต่าง ๆ คล้ายคลึงกัน
โครงสร้างและส่วนประกอบของเซลล์พืช




2. เซลล์สัตว์
 เซลล์สัตว์มีรูปร่างหลายลักษณะเซลล์บางชนิดอาจมีรูปร่างกลมรี บางชนิดมีรูปร่างยาวเป็นเส้น
หรือรูปร่างอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับชนิดและหน้าที่ของเซลล์ ตัวอย่างเช่น เซลล์เม็ดเลือดแดงมีรูปค่อนข้างกลม ตรง
กลางเว้าทั้งสองข้าง เซลล์ประสาทมีรูปร่างหลายแบบ คือ กลม รี หรือเป็นแฉก เซลล์กล้ามเนื้อเรียบมีรูปร่อง
เรียวยาว แหลมหัวแหลมท้าย เป็นต้น
โครงสร้างและส่วนประกอบของเซลล์สัตว



1. ผนังเซลล์ (Cell Wall) เป็นส่วนที่อยู่ภายนอกเยื่อหุ้มเซลล์ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตเป็น
จ านวนมาก ผนังเซลล์พบในเซลล์พืชเท่านั้นเป็นส่วนที่ไม่มีชีวิต ท าหน้าที่ให้ความแข็งแรงและท าให้เซลล์
คงรูปอยู่ได้ เมื่อสร้างใหม่ ๆ ผนังเซลล์จะมีลักษณะบาง ต่อมาจะหนาขึ้นเพราะมีการสะสมสารต่าง ๆ โดย
ชั้นใหม่ที่เกิดจะติดกับส่วนของเยื่อหุ้มเซลล์ ท าให้ชั้นเก่าถูกดันห่างออกจากโปรโตพลาสต์ ชั้นใหม่นี้เรียกว่า
ผนังเซลล์ชั้นที่สอง (Secondary Cell Wall) ซึ่งจะมีความหนาไม่เท่ากันตลอด ท าให้เกิดลักษณะที่เป็นรู
เปิด เพื่อให้สารต่าง ๆ เคลื่อนผ่านได้เรียกว่า พิท (Pit)

2. เยื่อหุ้มเซลล์ (Cell Membrane) เป็นส่วนของเซลล์ที่หุ้มห่ออวัยวะต่าง ๆ ไว้ภายใน ท าหน้าที่ใน
การควบคุมการไหลผ่านของสารละลาย โดยมีคุณสมบัติในการเลือกสารให้ผ่านเข้าออก ประกอบด้วยชั้น
ของโปรตีนและไขมัน 3 ชั้น รวมเรียกว่า Unit Membrane
3. ไซโทพลาซึม (cytoplasm) มีลักษณะเป็นของเหลวคล้ายเจลลี่ซึ่งมีน้ า โปรตีน ไขมัน
คาร์โบไฮเดรต และเกลือแร่ต่างๆ เป็นองค์ประกอบ ไซโทพลาซึมเป็นศูนย์กลางการท างานของเซลล์ที่ท า
หน้าที่เกี่ยวกับเมแทบอลิซึม (metabolism) ทั้งกระบวนการสร้างและการสลายอินทรียสาร เป็นแหล่งที่
เกิดปฏิกิริยาเคมีต่างๆ ที่จะช่วยให้เซลล์ด ารงชีวิตอยู่ได้
4. พลาสติด (Plastid) พลาสติดเป็นอวัยวะภายในเซลล์พืช ซึ่งแบ่งออกเป็นหลายชนิด เช่น คลอ
โรพลาสต์ (Chloroplast) เป็นพลาสติดซึ่งมีรงควัตถุสีเขียว ซึ่งเรียกว่า คลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) โครโม
พลาสต์ (Chromoplast) มีรงควัตถุสีเหลือง ส้ม และแดง ซึ่งเรียกว่า คาร์โรทีนอยส์ (Carotenoids) และอะ
มัยโลพลาสต์ (Amyloplast) ท าหน้าที่สะสมแป้ง เป็นต้น
 4.1 คลอโรพลาสต์ (chloroplast) พบเฉพาะในเซลล์ที่มีสีเขียวของพืชและเซลล์ของ
โพรทิสต์บางชนิด เช่น สาหร่าย คลอโรพลาสต์ประกอบด้วยเยื่อหุ้ม 2 ชั้น ชั้นนอกท าหน้าที่ควบคุมชนิดและ
ปริมาณของสารที่ผ่านเข้าและออกจากคลอโรพลาสต์ ส่วนชั้นในจะมีลักษณะยื่นเข้าไปภายในและมีการเรียง
กันเป็นชั้นๆ อย่างมีระเบียบ ภายในเยื่อหุ้มชั้นในจะมีโมเลกุลของสารสีเขียว เรียกว่า คลอโรฟิลล์
(chlorophyll) และมีเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างอาหาร
4.2 โครโมพลาสต์ (Chromoplast) เป็นพลาสติดที่มีรงควัตถุสีเหลือง ส้มและแดง ซึ่งเป็น
พวก Carotenoids ปรากฏอยู่ในดอกท าให้เกิดสีดึงดูดแมลง ผลและราก เป็นต้น โครโมพลาสต์สามารถเกิด
จากคลอโรพลาสต์ได้เมื่อคลอโรพลาสต์ได้รับเอทธิลีนหรือ ABA และโครโมพลาสต์ อาจจะกลับคืนเป็น
คลอโรพลาสต์ได้ในกรณีที่โครโมพลาสต์ได้รับจิบเบอเรลริล หรือไซโตไคนิน (Gibberellins หรือ
Cytokinins)
 4.3. อะมัยโลพลาสต์ (Amyloplast) เป็นพลาสติดที่ท าหน้าที่เก็บสะสมอาหารพวก
คาร์โบไฮเดรต พบมากในส่วนที่สะสมอาหาร เช่น ใบเลี้ยงและเอนโดสเปิร์ม (Endosperm) และพืชหัวต่าง
ๆ เป็นอวัยวะที่ล้อมรอบด้วยเยื่อหุ้ม 2 ชั้น นอกจากท าหน้าที่สะสมอาหารแล้ว ยังเกี่ยวข้องกับการตอบสนอง
ต่อแรงดึงดูดของโลกด้วย
 4.4. อีธิโอพลาสต์ (Etioplast) เป็นพลาสติดที่พัฒนาขึ้นมาโดยไม่ได้รับแสงพบในพืชที่สี
ขาวซีดและในใบเลี้ยงของเมล็ดที่งอกก่อนที่จะได้รับแสง อีธิโอพลาสต์จัดเป็นระยะหนึ่งของการพัฒนา
ของพลาสติด เพื่อจะกลายเป็นคลอโรพลาสต์ต่อไป ภายในอวัยวะชนิดนี้จะมีรงควัตถุ คาร์โรทีนอยส์อยู่
เล็กน้อยและมีโครงสร้างที่เรียกว่าโปรลาเมลลา บอดีส์ (Prolamella Bodies) อยู่ประมาณ 1-4 หน่วย เมื่อ
ได้รับแสงอีธิโอพลาสต์จะเปลี่ยนไปเป็นคลอโรพลาสต์
5. นิวเคลียส (nucleus)อยู่ในไซโทพลาซึม เป็นส่วนประกอบที่ส าคัญที่สุดของเซลล์ นิวเคลียสท า
หน้าที่ควบคุมเมแทบอลิซึมของเซลล์ ควบคุมการสังเคราะห์โปรตีนและเอนไซม์ควบคุมการถ่ายทอด
ลักษณะทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ไปสู่รุ่นลูกหลาน ควบคุมกิจกรรมต่างๆ ภายในเซลล์ ควบคุมการ
เจริญเติบโต และควบคุมลักษณะต่างๆ ของสิ่งมีชีวิต
 6. เอนโดพลาสมิค เรตติคิวลัม (Endoplasmic Reticulum) เป็นท่อเมมเบรน ซึ่งต่อกันตลอดทั้งไซ
โตพลาสต์ และยังต่อกับเยื่อหุ้มนิวเคลียสด้วย ท าหน้าที่เป็นท่อขนส่งสาร ต่าง ๆ และอาจจะสะสมสาร
บางอย่างได้ด้วย เอนโดพลาสมิค เรตติคิวลัมอาจจะมีไรโบโซมมาเกาะติดในเซลล์ที่มีกิจกรรมสูงสร้าง
โปรตีนมากจะมีเอนโดพลาสมิค เรตติคิวลัมชนิดนี้อยู่มาก
 7. กอลไจ แอพพาราตัส (Golgi Apparatus) อวัยวะชนิดนี้ประกอบด้วยหน่วยย่อยเรียกว่ากอลไจ
บอดีส์ (Golgi Bodies) หรือดิ๊กตีโอโซมส์ (Dictyosomes) ซึ่งแต่ละหน่วยย่อยนี้เป็นถุงของเยื่อ เมมเบรนแบน
ๆ เรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ แต่ละชั้นเรียกว่า ซีสเตอนี่ (Cisternae) โดยจะท าหน้าที่สร้างผนังเซลล์ในขณะที่มี
การแบ่งเซลล์เกิดขึ้นหรือในขณะที่สร้างผนังเซลล์ชั้นที่สอง นอกจากนั้นยังเกี่ยวข้องกับการเจริญของเยื่อ
หุ้มเซลล์ด้วย
 8. ไรโบโซม (Ribosome) เป็นอวัยวะภายในเซลล์ที่มีขนาดเล็ก เกิดอยู่เป็นอิสระและเกิดรวมอยู่กับ
เยื่อหุ้มเช่นรวมกับเอนโดพลาสมิคเรตติคิวลัม ไรโบโซมซึ่งรวมเป็นกลุ่มหรือเป็นสายโดยมี rRNA เชื่อมอยู่
เรียกว่า โพลีไรโบโซม (Polyribosome) หรือโพลีโซม (Polysome) ไรโบโซมท าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการ
สังเคราะห์โปรตีนเพราะเป็นบริเวณที่กรดอะมิโน (Amino acid) มาต่อกันเกิดเป็นลูกโซ่ของโพลีเพป
ไทด์ (Polypeptide chain) ไรโบโซมมี 3 ชนิด เกิดในที่ต่าง ๆ กัน คือ ไซโตพลาสต์ ไมโตคอนเดรีย และ
คลอโรพลาสต์
9. ไมโครทิวบูลส์ (Microtubules) เป็นอวัยวะในเซลล์พืช ประกอบด้วยท่อตรงๆ ซึ่งมีความยาวไม่
แน่นอน มักจะอยู่รวมเป็นกลุ่ม ผนังประกอบด้วยหน่วยย่อยซึ่งมี รูปร่างกลม 13 หน่วย โดยเรียงกันมี
ลักษณะเป็น helix หน่วยย่อยนี้เป็นโปรตีนที่เรียกว่า ทาบูลิน (Tabulin) หน้าที่ของไมโครทิวบูลส์คือ น าการ
เคลื่อนที่ของอวัยวะอื่น ๆ ภายในเซลล์ และเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของเซลล์ ควบคุมการเรียง
ตัวของไมโครไฟบริลของผนังเซลล์ให้ถูกต้อง โดยไมโครทิวบูลส์จะเรียงตัวขนานกับไมโครไฟบริล
เสมอ 
 10. แวคคิวโอ (Vacuole) เป็นอวัยวะของเซลล์พืชซึ่งท าหน้าที่เหมือนกับไลโซโซม (Lysosomes) 
ของสัตว์ เป็นอวัยวะที่มีเยื่อหุ้มที่เรียกว่าโทโนพลาสต์ (Tonoplast) เมื่อเซลล์มีขนาดเล็กจะมีจ านวนมากแต่
เมื่อเซลล์เจริญเต็มที่แวคคิวโอจะมารวมกันเป็นหน่วยเดียวมีขนาดใหญ่ ภายในแวคคิวโอมีเอนไซม์หลาย
ชนิด เช่น ไฮโดรไลติก เอนไซม์ (Hydrolytic emzymes) นอกจากนั้นอาจจะสะสมสารอื่น ๆ เช่น รงควัตถุ
ในกลุ่มแอนโธไซยานิน (Anthocyanins) ซึ่งมีสีแดง ม่วง น้ าเงิน ชมพู และขาว เป็นต้น และยังมีแทนนิน 
(Tannin) โปรตีนและกัม (Gum) เนื่องจากมีสารประกอบต่าง ๆ ละลายหรืออยู่ในแวคคิวโอจ านวนมาก ท า
ให้แวคคิวโอสามารถช่วยรักษาความเต่งของเซลล์ไว้ได้และยังช่วยให้เซลล์ขยายตัวได้ด้วย

3. การเปรียบเทียบเซลล์พืชและเซลล์สัตว์ 
 ลักษณะรูปร่าง ส่วนประกอบและหน้าที่ของเซลล์พืชและเซลล์สัตว์เปรียบเทียบเพื่อให้เห็นความ
เหมือนและความแตกต่างระหว่างเซลล์พืชและเซลล์สัตว์ ได้ดังนี้

ความแตกต่างเซลล์พืชและเซลล์ สัตว์
เซลล์ พืชเซลล์ สัตว์
1. เซลล์พืชมีรูปร่างเป็นเหลี่ยม1. เซลล์สัตว์มีรูปร่างกลม หรือรี
2. มีผนังเซลล์อยู่ด้านนอก2. ไม่มีผนังเซลล์ แต่มีสารเคลือบเซลล์อยู่ด้านนอก
3. มีคลอโรพลาสต์ภายในเซลล์3. ไม่มีคลอโรพลาสต์
4. ไม่มีเซนทริโอล4. มีเซนทริโอลใช้ในการแบ่งเซลล์
5. แวคคิวโอลมีขนาดใหญ่ มองเห็นได้ชัดเจน5. แวคคิวโอลมีขนาดเล็ก มองเห็นได้ไม่ชัดเจน
6. ไม่มีไลโซโซม6. มีไลโซโซม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น